วัสดุอันตราย ทิ้งดี ๆ คิดถึงคนข้างหลัง

     ก่อนทิ้งคิดสักนิด เพราะสิ่งที่เราทิ้งไปโดยไม่คิดอะไรอาจเกิดอันตรายกับคนอื่น ๆ ต่อได้ ถ้าเกิดคุณทิ้งใบมีดคัตเตอร์ลงในถังขยะที่บ้าน แล้วเผอิญมีลูกเล็ก ๆ มาคุ้ยเขี่ย อาจบาดมือลูกแล้วทำให้คุณเห็นความสำคัญของการทิ้งขยะอันตราย แต่ถ้าที่บ้านคุณไม่มีเด็กเล็ก
หรือไม่มีใครที่อาจจะเกิดอันตรายจากการทิ้งขยะของคุณ ก็ลองมองออกไปให้ไกลสักนิด ว่าคนเก็บขยะหรือคนที่ทำอาชีพหาของเก่าขายเขาอาจมาหยิบจับจนเกิดอันตรายสำหรับคนเหล่านั้นก็ได้

      ฉะนั้นก่อนทิ้งเราต้องคิกสักนิด เพื่อชีวิตอีกหลายชีวิตที่จะได้ไม่ต้องเจออันตราย

      สำหรับขยะอันตรายที่เราจะมาแนะนำกันวันนี้ก็เป็นของใกล้ตัวที่ต้องระมัดระวังเวลาใช้กันอยู่แล้ว ฉะนั้นเวลาทิ้งจึงยิ่งต้องระวังให้มากขึ้นอีกนะครับ

     1.ใบมีดคัตเตอร์ ก่อนเราจะทิ้งจะต้องหาสก๊อตเทปพันก่อน ป้องกันคนเก็บขยะหรือสุนัข แมวที่มาคุ้ยขยะแล้วโดนบาด

      2.หลอดฟลูออเรสเซนต์ แบตเตอรี่มือถือ กระป๋องสเปรย์ หรือตลับหมึกพิมพ์ เก็บรวมรวมใส่ไว้ในถุงดำ แล้วติดป้ายว่า "ขยะพิษ" เพื่อแจ้งให้คนเก็บขยะทราบ เพราะหากสารพิษเหล่านี้ไหลลงดินหรือแหล่งน้ำอาจเกิดสารพิษตกค้างเป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ได้

      3.ถ่านไฟฉายไม่ใช้แล้ว เก็บรวมรวมถ่านเก่าใส่ไว้ในถุงดำ แล้วติดป้ายว่า "ขยะพิษ (ถ่านไฟฉายใช้แล้ว)" เพื่อแจ้งให้คนเก็บขยะทราบ หรือหากมีซากถ่านไฟฉายเป็นจำนวนมาก ใน กทม สามารถแจ้งเรียกฝ่ายความสะอาดของเขตที่พักอาศัยไปรับถึงที่ได้

     อันตรายจากถ่านไฟฉายเมื่อตกอยู่ในสภาพเก่าเก็บก็มักจะมีน้ำไหลเยิ้มย้อยออกมาซึ่งมีกลิ่นคล้ายสนิมเหล็ก มันคือสารเคมีสารพัด ล้วนแล้วมีพิษภัย ไม่ว่าจะเป็นสารแคดเมียมปรอท ตะกั่ว นิกเกิล ลิเธียม และแมงกานีสไดออกไซด์ เป็นต้น 

     สารเคมีที่เสื่อมสภาพเหล่านี้ เพียงแค่ผิวได้สัมผัสก็ถือได้ว่าอันตรายแล้ว ยิ่งดูดกลืนเข้าไปยิ่งไม่ต้องพูดถึง รับเข้าไปน้อยก็จะสะสม และส่งผลร้ายต่อแทบทุกระบบในร่างกาย ทั้งระบบประสาท-ทางเดินอาหาร-ระบบหายใจ-เนื้อเยื่อ- เม็ดเลือดแดง หากรับเข้าไปมากก็เสี่ยงต่อการถูกกัดกร่อนอวัยวะภายใน แต่ไม่ว่าพิษที่ได้รับจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือ เรื้อรัง

     ผลร้ายก็ยังคงเสี่ยงต่อความเจ็บป่วย อย่างน้อยเด็ก ๆ ก็เสี่ยงกับการพัฒนาการสมองได้ช้าลง สติปัญญาด้อยลง ฯลฯ พิการ หรือกระทั่งเสียชีวิต

      กรมอนามัยได้ให้ตำแนะนำสำหรับสารพิษที่ใกล้ตัวเราก็สามารถหาของอื่นมาใช้ทดแทนกันได้เพื่อป้องกันทั้งตัวเราและลดจำนวนการใช้สารพิษเหล่านั้นในสังคมด้วย

1.น้ำยาขัดห้องน้ำและสุขภัณฑ์ เป็นสารกัดกร่อนและเป็นสารพิษ ถ้าจะทำความสะอาดห้องน้ำให้ใช้นํ้าสบู่หรือน้ำส้มสายชูผสมน้ำราดแล้วขัดด้วยแปรงอีกที

2.นํ้ายาขัดกระจก เป็นสารกัดกร่อนและสารพิษ ให้ใช้นํ้าผสมนํ้าส้มสายชู แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ด ขัดถู หรือใช้ผ้าเนื้ออ่อนเช็ดถูก็ได้

3.ยาฆ่าแมงสาบและยาฆ่ามด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสารพิษ หากดูแลบ้านให้สะอาด ไม่มีกลิ่น หรือเศษอาหารเลอะเทอะ ก็จะลดมดและแมลงสาบลงได้

4.นํ้ายาขัดเครื่องเงินหรือเครื่องทองแดง ล้วนเป็นสารพิษ ให้ใช้โซดาไฟผสมกับเกลือในน้ำอุ่น แล้วนำเครื่องเงินหรือเครื่องทองแดงเหล่านั้นไปแช่ ก่อนจะขัดให้ขึ้นเงา สำหรับการทำความสะอาดเครื่องทองแดง ให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมเกลือแล้วหยดลงบนเครื่องทองแดง ก่อนจะขัดถู ทำความสะอาด

5.ยาขัดรองเท้า เป็นสารไวไฟและเป็นสารพิษด้วย มีผู้แนะนำให้ใช้วาสลีนขัดถูแทนยาขัดรองเท้าก็จะทำให้รองเท้าเงางามได้เช่นกัน

6.แบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเตอร์รี่ทำจากสารสังกะสีและคาร์บอนหรือโลหะอื่นและที่อันตรายมาก ดังนั้นตอนเก็บควรระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงให้อยู่ไกลไฟ

     หากเราลดจำนวนสารพิษต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้นอกจากจะเป็นผลดีต่อตัวเราแล้วยังเป็นผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การกำจัดก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ เพียงแค่เราทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือเท่านั้นครับ

     ขอบคุณข้อมูลจากกรมอนามัย

     ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต