จับหนุ่มตุรกีในอพาร์ตเม้นต์ย่านหนองจอก ตำรวจคาดมือวางระเบิด ราชประสงค์




พอดีเข้าเว็บข่าวสดไม่ได้เลยเนื่องจากคนอาจกำลังเข้าไปดูเยอะมาก

เลยได้อ่านข่าวของ บีบีซีไทย - BBC Thai

ตำรวจนครบาลควบคุมตัวชายสัญชาติตุรกี ที่อพาร์ทเมนต์ย่านหนองจอก โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบวัตถุสำหรับใช้ประกอบระเบิดจำนวนมาก
การควบคุมตัวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน. เจ้าหน้าตำรวจ และกำลังทหารเข้าตรวจสอบห้องพักภายในอพาร์ทเมนต์ ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก และได้ตรวจสอบพบวัตถุและอุปกรณ์สำหรับการประกอบระเบิดดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวชายสัญชาติตุรกีที่พักอาศัยในห้องดังกล่าวไว้
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวกับบีบีซีไทยว่ายังไม่อาจระบุได้ว่าเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ ทุกอย่างอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
(ขอบคุณภาพจาก ทวิตเตอร์ สวพ. FM91)


ส่วนข่าวประชาชาติธุรกิจออนไลน์  ดังนี้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ส.ค. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน. เจ้าหน้าตำรวจ และกำลังทหารเข้าตรวจสอบภายในห้องเลขที่ 412 และ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเม้นท์ เลขที่ 134/5 ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. เบื้องต้นจากการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์และวัตถุที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกปรายแบบกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5ซ.ม. ชนิดเดียวกับที่พบที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร เบื้องต้นได้ควบคุมตัวชายหนุ่มสัญชาติตุรกี ที่เป็นเจ้าของห้องเช่าดังกล่าวไว้สอบสวน ความคืบหน้ารายงานให้ทราบต่อไป
ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1440836955

ข่าว Nation TV 
พาดหัวว่า "ล้อมจับผู้ต้องสงสัยเอี่ยวระเบิดระประสงค์"

"เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และเจ้าหน้าที่หทาร ร่วม 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจพื้นที่ อาคารที่พักอาศัย ชื่อ พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 134/5 ซ.เชื่อมสัมพันธ์ 11 ถ.เชื่อมสัมพันธ์ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. เพื่อตรวจสอบชายต้องสงสัยที่เก่ายวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ โดยจุดดังกล่าวได้มี พล.ต.ท.สรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายคนร่วมตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวด้วยผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ผ่านมากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว และยังตรึงกำลังไว้อย่างเข้มงวด โดยมีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวเป็นชายชาวต่างชาติ คาดว่าเป็นชาวอุยกูร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นผู้ร่วมกระบวนการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยมีหน้าที่ประกอบวัตถุระเบิด อย่างไรก็ตามยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดยืนยันว่าชายต้องสงสัยดังกล่าวเป็นสัญชาติใด ขระเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเบื้องต้นมีรายงานว่า ห้องที่ผู้ต้องสงสัยพักอาศัยในอพาร์ทเม้นต์ดังกล่าว อยู่บริเวณชั้น 4 ชั้นสุดท้ายของอาคารในเวลาต่อมา ภายหลังเจ้าหน้าตำรวจ และกำลังทหารเข้าตรวจสอบภายในห้องเลขที่ 412และ 414 พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ ที่นำกำลังเข้าปิดล้อมตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผลจากการตรวจสอบในห้องดังกล่าวได้ควบคุมชายต้องสงสัยชาวต่างชาติ สัญชาติตุรกี และยังพบอุปกรณ์และวัตถุที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกปรายแบบกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5ซ.ม. ชนิดเดียวกับที่พบที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร"
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378469558/

Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

สพฐ.แจ้งเขตพื้นที่การศึกษาเตรียมคัดเลือกโรงเรียนทุกระดับ ตามนโยบายการปรับลดเวลาเรียน


 ภายหลังที่พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศนโยบาย "การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Moderate Class MoreKnowledge" ซึ่งจะเริ่มต้นนำร่องในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 นั้น ล่าสุดวันนี้ (28 สิงหาคม 2558) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนทั่วประเทศเตรียมการแล้ว
 ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการปรับลดเวลาเรียนให้เรียนในชั้นเรียนถึงเวลา 14.00 น.ของแต่ละวัน หลังจากนั้นจึงให้นักเรียนได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นการพัฒนานักเรียนในด้านอื่นๆ ภายในโรงเรียน โดยจะเริ่มในวันที่ พฤศจิกายน 2558 และมีเป้าหมายจำนวนโรงเรียนนำร่องร้อยละ10 ของจำนวนโรงเรียนทั้งหมด
ดังนั้น จึงแจ้งให้มีการพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาร้อยละ 10 ของโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา โดย
- เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ให้คัดเลือกโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด โรงเรียนอนุบาลประจำอำเภอ และโรงเรียนอื่นๆ ตามความเหมาะสม- เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้คัดเลือกตามความเหมาะสมให้มีความหลากหลายตามขนาดและที่ตั้งของโรงเรียน
- สำนักบริหารการศึกษาพิเศษ 
ให้คัดเลือกตามความเหมาะสมให้มีความหลากหลายตามขนาดและที่ตั้งของโรงเรียน
ทั้งนี้ สพฐ.จะส่งแบบสำรวจอย่างเป็นทางการโดยเร็วที่สุดต่อไป

 พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในวันนี้ (28 สิงหาคม 2558) อีกด้วยว่า นโยบายการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ มีเจตนาการปรับลดเวลาเรียนให้น้อยลง เป้าหมายเพื่อให้เด็กไม่ต้องเครียดจนเกินไป ตามนโยบายของรัฐบาล  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ไปศึกษาและพิจารณาแล้วว่ามีความเป็นไปได้ คือสามารถลดการเรียนวิชาหลักลงได้ จากเดิมนักเรียนต้องเรียน 1,200  ชั่วโมงต่อปี เหลือ 840 ชั่วโมงต่อปี โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา ซึ่ง สพฐ.เห็นว่าน่าจะสามารถเลิกเรียนได้ในเวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการก็ได้มาพิจารณาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย หากผู้ปกครองบางกลุ่ม ไม่พร้อมที่จะรับเด็กกลับบ้าน เพราะติดภาระหน้าที่การงาน หรือกลัวลูกจะได้รับอันตราย และสบายใจที่จะให้ลูกอยู่ในโรงเรียนมากกว่า ส่วนผู้ปกครองอีกกลุ่ม อาจจะมีภาระทางบ้านที่ต้องการให้พี่มาช่วยเลี้ยงน้อง มาช่วยดูแลบ้าน ทั้งสองส่วนนี้ไม่ได้ห้าม ถ้าจะกลับบ้านก็ได้ แต่ส่วนที่ไม่พร้อมรับเด็กกลับบ้าน โรงเรียนจะจัดกิจกรรมที่มีความสุขให้เด็กในช่วงเวลาดังกล่าว แนวทางนี้จะตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีที่ให้จัดการเรียนการสอนให้นักเรียนมีความสุข ผู้ปกครองมีความสุข และครูมีความสุข
ดังนั้น เมื่อเลิกเรียนในชั้นเรียนเวลา 14.00 น.แล้ว เด็กสามารถไปทำกิจกรรม เล่นกีฬา ดนตรี หรือครูพาไปทำกิจกรรมเรื่องสิ่งแวดล้อม แม้กระทั่งจะให้เด็กนั่งทำการบ้านในเวลาดังกล่าวก่อนกลับบ้านก็ได้  โดยกิจกรรมนั้นต้องไม่ใช่การเพิ่มการบ้านให้เด็ก ซึ่งขณะนี้ สพฐ.อยู่ระหว่างจัดทำกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อให้โรงเรียนนำไปประยุกต์ใช้ โดยได้ย้ำกับ สพฐ. ไปแล้วว่า หากเป็นกิจกรรมที่ไม่ทำให้เด็กเครียด ก็สามารถทำได้

ที่มา - ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 283/2558
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

เมื่อโทโทโร่ กลายเป็นเค้ก กินไม่ลงเลยแบบนี้



โทโทโร่เพื่อนรัก เป็นอะนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเรื่องหนึ่ง ของผู้กำกับฮะยะโอะ มิยะซะกิ ภายใต้การผลิตของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ค่ายผลิตภาพยนตร์การ์ตูนคุณภาพของโลกค่ายหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนญี่ปุ่นในยุคราว พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) เนื้อหาของเรื่อง โทโทโร่เพื่อนรัก เป็นเรื่องราวที่สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง และรักธรรมชาติ

ในการ์ตูนก็น่ารักมาก แต่ถ้ากลายมาเป็นเค้กจะหน้าตาน่ารักน่ากินขนาดไหนมาดูกัน











ที่มา - boredpanda

Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

ศิลปะอาหารบนปลายช้อนที่มองแล้วไม่กล้ากินเลยทีเดียว


ศิลปะอาหารบนปลายช้อนที่มองแล้วไม่กล้ากินเลยทีเดียว

ศิลปินชาวโรมาเนียชื่อ Ioana Vanc ได้รังสรรรค์ผลงานศิลปะอาหารบนปลายช้อน ด้วยความสนุก และความคิดสร้างสรรค์ผสมรวมกัน จนได้ผลงานศิลปะที่น่ารัก จนเราเห็นแล้วอยากเอามาใส่กรอบเก็บไว้มากกว่าเอามากินซะอีก แต่จะว่าไปคงไม่มีใครกล้ากินลงแน่นอน

ลองมาดูตัวอย่างผลงานของเขากัน แต่ละอันทำออกมาซะน่ารัก สวยงามเลย
More info: Instagram




















ที่มา - boredpanda
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

สรุป รมต.กระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบาย (27 ส.ค. 2558 )



พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการแถลงนโยบายด้านการศึกษา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2558 เกี่ยวกับนโยบาย  “การลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ : Moderate Class More Knowledge” ซึ่งจะเริ่มต้นนำร่องในโรงเรียนประถมศึกษาที่มีความพร้อม 3,500 แห่งในภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2558 และนโยบายในการประดับธงประจำพระองค์ของพระราชวงศ์ไทยและธงชาติไทยให้ใหม่และมีสีสดใสอยู่เสมอ

1.นโยบายจากกระแสพระราชดำรัส เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ให้ครูรักเด็ก และเด็กรักครู
- ให้ครูสอนเด็กให้มีนํ้าใจต่อเพื่อน
- ให้ครูจัดกิจกรมให้เด็กทำร่วมกัน

2.นโยบายนายกฯ
- ทำให้เร็ว ประชาชนพึงพอใจ คนมีคุณภาพ
- ปรับลดภาระงานที่ไม่จำเป็น
- เร่งปรับหลักสูตรให้ครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน มีความสุข ใช้สื่อการสอน
- ผลิตคนให้ทันตลาดแรงงาน แก้ปัญหาการว่างงาน
- จัดการศึกษาให้ทั่วถึง เท่าเทียมกัน มีคุณภาพ
- นำระบบ ICT สื่อการสอน เข้ามาใช้
- เรียนให้ได้ทักษะชีวิต อยู่ในโลกไร้พรมแดน


3.นโยบายทั่วไป
- การจัดทำแผนงาน/โครงการเริ่มใหม่ ต้องเข้าใจว่าทําเพื่ออะไร ทำเพื่อให้บรรลุงานหลัก
- การปรับปรุงแผนงาน/โครงการเดิมที่ไม่สัมฤทธิ์ผล
- แผนงาน/โครงการพระราชดำริ
- งบประมาณ ให้วางแผนโครงการในงบลงทุนในไตรมาสแรก งบกลางให้เฉพาะที่จำเป็น โปร่งใส ตรวจสอบได้ บูรณาการใช้งบร่วมกันระหว่างหน่วยงาน
- เน้นการใช้สื่อภายในและนอกองค์กรให้ได้
ช่องทางการสื่อสาร เช่น ไลน์ จัดให้มีแผนการประชาสัมพันธ์
- การรักษาสภาพแวดล้อม ความปลอดภัย
- อำนวยการเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- การร่วมมือกับภาคเอกชนและประชาสังคม การรับนักเรียน/นศ.ทำงานระหว่างเรียน
- ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอนของครู เพื่อให้ครูมีเวลาสอนมากขึ้น
- การประเมินเพื่อความก้าวหน้า ต้องยึดผลการพัฒนาของผู้เรียน ทักษะชีวิต และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
- การแก้ไขปัญหาการศึกษาสามจังหวัดชายแดนใต้
-
- ให้นำ ICT เข้ามาใช้ในการบริหารงาน การศึกษา การสารสนเทศ
-ให้ความสำคัญกับการบริหารงานส่วนภูมิภาคและเขตพื้นที่ต่างๆ ทบทวนบทบาทหน้าที่ สิ่งใดต้องรู้และยังไม่รู้
- ให้ความสําคัญกับเทคนิคการสอน และการสื่อความหมายที่ดี


4.นโยบายปราบปรามการทุจริต ห้ามซื้อขายตำแหน่งเพื่อย้ายที่อยู่
หลังจากเดือน ธ.ค.จะมีการสุ่มตรวจ


5. นโยบาย กศน.
- ขยายโอกาสทางการศึกษาทั่วถึง มีคุณภาพ
- กศน.คู่ขนานกับอาชีวศึกษา
- จัดส่งเสริมการศึกษาทุกช่วงวัย โดยห้องสมุดต้องมีบทบาทสำคัญ
- สอดแทรกเนื้อหาอุดมการณ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


ที่มา - ข่าวกระทรวงศึกษาธิการ
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

Apple จัดงานเปิดตัว iPhone 6s 9 กันยายน 2558 นี้ แน่นอน


บัตรเชิญงานเปิดตัว

ยืนยันแล้ว Apple ส่งบัตรเชิญสื่อเพื่อร่วมงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่กำลังจะถึงนี้
Apple เปลี่ยนสถานที่จัดงานไปที่ Bill Graham Civic Auditorium ในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าจะจัดที่นี่เป็นครั้งแรกและที่สำคัญห้องประชุมนี้รองรับผู้ชมได้มากถึง 7,000 คนเลยทีเดียว
งานนี้คาดหวังกันว่าจะมีการอัปเดตไฮไลด์หลักก็คือเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะใช้ชื่อเรียกคือ iPhone 6s, 6s Plus, การอัปเดต iOS 9.0 และ OS X Elcapitan เวอร์ชันเต็ม  นอกจากนี้อาจจะได้เห็น Apple TV รุ่นใหม่ด้วย
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน โดย น้าเน๊ก


หลายคนคงเคยได้อ่าน ชอบบทความนี้มากเลยมาแปะบล๊อก

ขอบคุณ น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา ด้วยนะคับ




คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิด แบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก....
เปล่าเลยผมไม่ ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความ รู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก  พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป
โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน น้อยเกินไปจริงๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!

คืนวันเสาร์ ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย! คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไร อยู่...ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน
เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง
เอา เวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา (ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี.....
แต่น่าแปลก หลาย คนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอาหัวตากแอร์ไปวัน ๆ   ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้  เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า 'เงินเดือน'
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้ อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลือ อยู่แต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็น อาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว .... เราจะเกิดความเสียดาย เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตาย ได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำ ทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่ รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอา แบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตาม ความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้ หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล
 ....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือ มีซองสีชมพูพร้อมการ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่ เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่ กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็น แรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว....รู้ งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำ ทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน....เสียดายแย่  
 
โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

หมดปัญหา iPhone 16GB ความจุไม่พอใช้ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ iOS8 "iCloud Photo Library"




ได้อ่านกระทู้นี้จาก Pantip ของคุณ XChgr  ดีมากจึงได้นำมาแบ่งปันต่อครับ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ iOS8 ก็คือ iCloud Photo Library
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่ามันทำงานอย่างไร และช่วยอะไรเราได้บ้าง วันนี้เราจะลองมาดูกัน

iCloud Photo Library ทำอะไรได้บ้าง ?
1. เมื่อเปิดใช้งานแล้ว เวลาเราต่อ Wifi และชาร์ทแบตอยู่ iPhone จะทำการ Upload รูปและ VDO ที่เราถ่ายมาขึ้นไปไว้บน  iCloud 
2. ไฟล์ที่ Upload ขึ้นไปนั้น ไปแบบเต็มๆ ไม่ลดทอนความละเอียด แบบ Photo Stream เหมือนที่เคยมีใน iOS  รุ่นก่อน
3. ทุก iOS Device ที่เราใช้งานด้วย iCloud Account นี้ และเปิดฟีเจอร์นี้ เวลาถ่ายรูปก็จะมารวมกันอยู่ที่เดียวหมด และทุกเครื่องจะเห็นรูปเท่ากันหมด
4. เวลาเรา edit, crop หรือ delete รูปจากเครื่องไหน รูปของทุกเครื่องก็จะเปลี่ยนตามไปด้วยเหมือนกันหมด
5. สามารถเลือกได้ว่าจะเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้ในมือถือไหม หรือจะเก็บแค่ไฟล์เล็กๆขนาดพอดีหน้าจอเพื่อประหยัดเนื้อที่ก็ได้ (เมื่อกดดู ตัวเครื่องจะไปโหลดไฟล์ขนาดเต็มมาจาก iCloud โดยอัตโนมัติ)
6. 5GB แรกใช้งานฟรี หากเกินปุบก็ต้องยอมเสียเงินหน่อย แต่ก็แค่เดือนละ $0.99 (~33บาท) ก็จะได้เพิ่มมาเป็น 20GB แล้ว แลกกับการที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไฟล์รูปเราไม่เจอว่าเราเซฟไว้ที่ไหน หรือ HDD เสีย ทำรูปหายหมดอีกต่อไป ทั้งยังสามารถเข้าถึงรูปของเราทุกรูปจากหน้าเวบไซต์ iCloud ของเราเอง หรือจะเลือกรูปมาสร้าง URL ส่งให้เพื่อนดู ก็สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องหาทางฝากรูปไว้เวบนั้นเวบนี้ หรือส่งผ่าน Line, WhatsApp ที่จะต้องมีการลดทอนความละเอียดภาพก่อน อีกต่อไป

เปิดใช้งานอย่างไร ?
ให้เข้าไปที่ Settings > Photos & Camera แล้วเลือกเปิด iCloud Photo Library 
- หากต้องการเก็บรูปความละเอียดเต็มๆไว้ในเครื่องให้เลือก Download and Keep Originals
- หากต้องการให้รูปเต็มๆอยู่แต่บน iCloud, บนเครื่องโหลดมาแค่รูป Preview เล็กๆก็พอ ให้เลือก Optimize iPhone Storage


ทดสอบการใช้งาน ในการนำมาฟีเจอร์นี้มาใช้ลดพื้นที่การเก็บไฟล์รูปในตัวเครื่อง
ก่อนเปิดใช้  iCloud Photo Library มีรูปประมาณ 100 รูป และมีไฟล์ VDO อีกประมาณ 8 ไฟล์ ใช้พื้นที่ดังนี้
หลังจากนั้นได้ดำเนินการตามนี้
1. ทำการเปิด iCloud Photo Library 
2. เลือก Optimize iPhone Storage
3. และรอจนมันขึ้นว่า Upload เรียบร้อยแล้ว 
4. ให้ลองตรวจสอบได้ที่ https://www.icloud.com/#photos ว่ารูปเรา Upload ขึ้นมาครบแล้วจริงๆ
5. ให้ทำการ Turn Off iCloud Photo Library เสียก่อน (เพราะเราจะลบรูปในเครื่องทิ้งแล้ว ต้องปิดก่อนไม่งั้นมันจะซิงก์ไปลบบน iCloud ด้วย)
6. เข้าไปที่  Photos เลือกรูปจาก Collection->Moments และลบทิ้งให้หมด (ถ้าลบจากอัลบั้มจะเลือกได้ทีละรูปซึ่งช้ากว่าการเลือกจาก Moments แล้วลบทีเดียว)
7. เสร็จแล้วให้ตามไปลบรูปใน Albums: Recently Deleted อีกครั้ง
8. ทำการเปิด iCloud Photo Library อีกครั้ง และเลือก Optimize iPhone Storage เหมือนเดิม
9. รอจนมันขึ้นสถานะว่า Updated (ระหว่างนี้เครื่องเราจะทำการโหลดรูปย่อๆจาก iCloud มาไว้ในเครื่องเราจนครบเหมือนเดิม)
10. ทำการเช็กพื้นที่ในเครื่องอีกครั้งได้ดังนี้

จะเห็นได้ว่าวิธีนี้สามารถลดพื้นที่ใช้งานในส่วนของรูปภาพและวีดีโอที่เราถ่ายไปได้เยอะทีเดียว และรูปทุกรูปก็จะยังแสดงให้เราเห็นในเครื่องเหมือนเดิม แต่ว่าต่อจากนี้เมื่อเรากดดูรูปไหนบนมือถือ มันก็จะแสดงรูปแบบไม่ค่อยชัดก่อน และจะมีวงกลมทางขวาล่างแสดงให้เห็นว่ากำลังค่อยๆโหลดรูปต้นฉบับมา และภาพจะชัดขึ้นเมื่อโหลดเสร็จ รวมถึง VDO ก็เช่นกัน เมื่อกดดูถึงจะไปทำการโหลดตัวเต็มมาแสดงครับ
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

หารือลดเวลาเรียน เลิกเรียน 14.00 น. เริ่มได้ทันที่ภาคเรียน 2/2558



รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า ได้รับฟังแนวทางการดำเนินงานของ 5 องค์กรหลักตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องต่างๆ ซึ่งเป็นการขยายความเพิ่มเติมจากที่ได้นำเสนอไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) โดยตนได้ขอให้เพิ่มเติมแนวทางดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีใน 2 ประเด็น คือ
การลดเวลาเรียนของเด็กให้น้อยลง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปพิจารณาปรับลดชั่วโมงเรียนของบางวิชาให้น้อยลง เพื่อต้องการให้เด็กผ่อนคลาย ไม่เครียดในการเรียนมากเกินไปหรือต้องหอบการบ้านไปทำต่อที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีเวลาที่จะอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น หรือมีเวลาว่างเรียนรู้ตามวัย คิดบ้างทดลองปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่ท่องตำราอย่างเดียว โดยอาจจะเลิกเรียนในชั้นเรียนเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนเวลาที่เหลือให้ สพฐ.ไปพิจารณารายละเอียดและกิจกรรมว่าควรดำเนินการอย่างไรกับเด็ก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่จะเดินทางกลับบ้าน หรือกลุ่มซึ่งรอกลับบ้านพร้อมผู้ปกครองหลังเลิกงาน
ทั้งนี้ สพฐ.จะนำร่องโรงเรียนในสังกัดประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมด 38,000 โรงเรียนก่อน เริ่มต้นได้ทันทีในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ดังนั้นจึงขอให้ สพฐ.จัดระบบนิเทศและเตรียมการให้ดีในช่วงปิดภาคเรียนนี้ รวมทั้งสร้างความเข้าใจร่วมกันกับโรงเรียน นักเรียน ครู ผู้ปกครองในการดำเนินการด้วย
การเน้นการสอนอาชีพเฉพาะด้านของกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)เพื่อต้องการให้ มทร.แต่ละแห่งมีจุดเด่นในการผลิตผู้เรียนในแต่ละสาขาอาชีพเฉพาะทางแตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากจะต้องปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรแล้ว จะต้องพัฒนาครูผู้สอนและเครื่องมือช่วยสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็วภายในเดือนกันยายน 2559 อาจจะเริ่มต้นจาก 2-3 แห่งก่อน โดยจัดให้มีทั้งสถาบันหลักและรองลงไปในแต่ละสาขา เช่น มทร.ตะวันออก แม้จะมีความชำนาญด้านการสอนต่อเรือ แต่ก็ต้องวางแผนจัดระบบสำหรับเด็กที่อยู่ห่างไกลในภาคอื่นเช่นภาคใต้ที่ต้องการเรียนในสาขาอาชีพนี้ ซึ่งอาจต้องมี มทร. ระดับรองลงไปในภาคใต้ที่มีความพร้อมในการสอนสาขาอาชีพดังกล่าวรองรับด้วย
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

นายกฯ ปาฐกถา "ปฏิรูปการศึกษา.... สร้างอนาคตประเทศไทย"


สโมสรกองทัพบก (วิภาวดีรังสิต) - พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ปฏิรูปการศึกษา …. สร้างอนาคตประเทศไทย" ในงานสัมมนาเรื่อง การปฏิรูปการศึกษาและพัฒนามนุษย์สู่อนาคต จัดโดยคณะกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยมีพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน เมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2558 ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการศึกษาทุกฝ่าย เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจถึงแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 ในขณะนี้เรื่องของการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะทำอย่างไรให้สามารถรวบรวมบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด เพื่อที่จะร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกันให้ได้ เนื่องจากการศึกษาถือเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศในระยะยาว ดังนั้นการจะยกระดับประเทศได้ ก็คือการที่ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีการศึกษาน้อย ได้มีความรู้และได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้น สามารถเรียนรู้และช่วยเหลือตนเองได้
 จึงขอฝากให้ช่วยกันดูแลโดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงข้อมูลหรือเอกสารของทางราชการ ขอให้ใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจและไม่ยาวเกินไป เพื่อให้ประชาชนเปิดรับและมีความเข้าใจที่ตรงกันกับสิ่งที่ภาครัฐต้องการจะสื่อสาร ซึ่งหากมีการพัฒนาให้ทุกคนมีความรู้เท่าเทียมกันแล้ว อาจจะขยายผลไปสู่การเรียนรู้ในภาษาต่างประเทศอื่นๆ ต่อไป
 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะผู้บริหาร ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ผู้บริหารการศึกษา จนถึงผู้จัดการศึกษา จะต้องมีความเข้าใจในระบบการศึกษาของโลก ของอาเซียน และของประเทศไทยเอง เพราะทุกวันนี้โลกไม่มีพรมแดน จึงควรคิดให้ซับซ้อนมากกว่าเดิม ลดอัตตาของตนเองเพื่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน หันหน้ามาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน มีการทำงานเชื่อมโยงระหว่างองค์กร และบูรณาการการทำงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อที่จะทำให้ประเทศมีบุคลากรทางการศึกษาที่ดี มีนักเรียน นิสิตนักศึกษาที่ดี มีคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้การขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าไปได้

 หัวใจของการศึกษาที่ดี คือ การสอนให้คนมีความรู้และมีจิตสำนึกที่ดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่รอความช่วยเหลือจากผู้อื่น มีศักดิ์ศรีและภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ตลอดจนรู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่น
 ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างพลเมืองที่รู้ทั้งสิทธิและหน้าที่ ตลอดจนมีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการและทิศทางในการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเกษตร อุตสาหกรรม การค้า การลงทุน รวมทั้งยกระดับบุคลากรด้านการวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านการท่องเที่ยวและบริการ และแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและการแข่งขันกับนานาประเทศในอนาคต
 สำหรับการปฏิรูปการศึกษา หัวใจอยู่ที่การสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้เรียน ผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ควบคู่กับนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในระบบการศึกษาอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้มีความน่าสนใจ เพื่อให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้ ใช้วิจารณญาณเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกชักจูงไปในทางที่ไม่ถูกต้องหรือทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งได้ นอกจากนี้ ควรสร้างกระบวนการศึกษาและการเรียนรู้ สร้างสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้จบการศึกษาออกมาแล้วมีงานทำ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
จึงต้องการผลักดันการปฏิรูปการศึกษาโดยเร็ว โดยเริ่มดำเนินการเรื่องที่ใกล้ตัวเด็ก ครู และผู้ปกครอง จะทำอย่างไรให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข เมื่อนั้นผู้ปกครองและครอบครัวก็จะมีความสุขด้วย มีการผ่อนคลายหลักสูตร จัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม รวมทั้งลดภาระครูในการประเมินผลงานทางวิชาการ โดยจะต้องสร้างวิทยากรด้านการประเมิน ในรูปแบบ Direct Sale เพื่อให้ความรู้และอบรมครูก่อนการประเมินในพื้นที่ต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีการเก็บค่าบำรุงการศึกษาหรือค่ากิจกรรม จึงจะต้องมีการพิจารณาว่ามีความเพียงพอและเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพราะรัฐบาลจัดให้เรียนฟรี แต่ผู้ปกครองยังจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้อยู่ เช่นเดียวกับเรื่องหนังสือและตำราเรียน จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาว่าจะสามารถนำหนังสือเรียนกลับมาใช้ต่อได้หรือไม่ หรืออาจจะมีการปรับราคาหนังสือให้มีความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ปกครอง
ทั้งนี้ หากสามารถปฏิรูปการศึกษาในระยะสั้นได้สำเร็จ ก็จะส่งต่อในระยะยาว เพราะการศึกษามีความสำคัญและจำเป็นในการพัฒนาประเทศระยะยาว จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้มีการบูรณาการและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกัน มีการสร้างคุรุทายาทเพื่อเป็นอนาคตของประเทศ โดยเน้นสร้างคนให้เป็นผู้ที่รู้จักคิดวิเคราะห์ รู้ผิดชอบชั่วดี มีความคิดสร้างสรรค์ ยึดหลักความพอเพียง และรู้จักช่วยเหลือตัวเองเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างปรกติสุขและไม่มีข้อขัดแย้งกันอีก


นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน

ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี
 - ถ่ายภาพ
26/8/2558
ข่าวกระทรวงศึกษาธิการ
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

ลดชั่วโมงเรียน-ลดการบ้าน"ดาว์พงษ์"สั่งลุยประเดิมงานแรก



พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมกับผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุม MOC อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า ได้รับฟังแนวทางการดำเนินงานของ 5 องค์กรหลักตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องต่างๆ ซึ่งเป็นการขยายความเพิ่มเติมจากที่ได้นำเสนอไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) โดยตนได้ขอให้เพิ่มเติมแนวทางดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีใน 2 ประเด็น คือ

การลดเวลาเรียนของเด็กให้น้อยลง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปพิจารณาปรับลดชั่วโมงเรียนของบางวิชาให้น้อยลง เพื่อต้องการให้เด็กผ่อนคลาย ไม่เครียดในการเรียนมากเกินไปหรือต้องหอบการบ้านไปทำต่อที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีเวลาที่จะอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น หรือมีเวลาว่างเรียนรู้ตามวัย คิดบ้างทดลองปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่ท่องตำราอย่างเดียว โดยอาจจะเลิกเรียนในชั้นเรียนเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนเวลาที่เหลือให้ สพฐ.ไปพิจารณารายละเอียดและกิจกรรมว่าควรดำเนินการอย่างไรกับเด็ก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่จะเดินทางกลับบ้าน หรือกลุ่มซึ่งรอกลับบ้านพร้อมผู้ปกครองหลังเลิกงาน

ทั้งนี้ สพฐ.จะนำร่องโรงเรียนในสังกัดประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมด 38,000 โรงเรียนก่อน เริ่มต้นได้ทันทีในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ดังนั้นจึงขอให้ สพฐ.จัดระบบนิเทศและเตรียมการให้ดีในช่วงปิดภาคเรียนนี้ รวมทั้งสร้างความเข้าใจร่วมกันกับโรงเรียน นักเรียน ครู ผู้ปกครองในการดำเนินการด้วย

.......................

ที่มา-สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.

การไหว้ของคนจีนในเทศกาลสารทจีน 2558


 การไหว้ของคนจีนในเทศกาลสารทจีน


                การไหว้สารทจีน  จะแปลกไปกว่าสารทของชนชาติอื่น ๆ  ข้าวของเครื่องไหว้จะขาดเสียมิได้  ก็คือ
                1.  ขนมถ้วยฟู  และกู่ไฉ่  ซาลาเปา
                2.  ขนมเทียน
                นอกจากนั้น  ก็จะเป็นของเซ่นไหว้ธรรมดา  แล้วมีจุดธูปเทียนจุดประทัดเพื่อส่งเจ้า  แต่สมัยปัจจุบันทางการห้ามจุดประทัด  จึงมีเบาบางลงมาก
                อย่างไรก็ตาม  ทุกบ้านเรือนของชาวจีน  จะจัดชุดเซ่นไหว้เป็น  3  ชุด
                1.  ชุดไหว้เจ้าที่ 
                2.  ชุดไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ 
                3.  ชุดไหว้ต้นตระกูลจีน
                แต่เกือบทุก ๆ  ชุด  จะประกอบด้วยของ  5  อย่าง  มี 
                1.  เป็ด  ต้มทั้งตัว
                2.  ไก่  ต้มทั้งตัว
                3.  เนื้อหมูติดหนัง
                4.  ปลา  ทำแปะซะทั้งตัว
                5.  ตับหมู  นำมาต้ม  5  อย่าง  หรือ  3  อย่าง  หรือ  1  อย่าง  ก็ได้ตามแต่สะดวก
                นอกจากนี้ก็จะเป็นข้าว  กับข้าว  ตามที่เจ้าหรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเคยกินและชอบในสมัยมีชีวิตอยู่  หรือลูกหลานเห็นว่าดี
               ส่วนของหวานหลังอาหารคาวก็จะมี  นอกจาก  ขนมถ้วยฟู  ขนมกู่ไฉ่  ซาลาเปา  แล้ว  จะได้แก่  ผลหมากรากไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล  5  อย่าง,  3  อย่าง  หรือ  1  อย่างก็ได้  และกระดาษเงินกระดาษทอง

          ของไหว้สารทจีน ชุดแรก สำหรับไหว้เจ้าที่ จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวาน ขนมไหว้ สารทจีน ก็ใช้ ถ้วยฟู กุยช่าย ซึ่งต้องมีสีแดงแต้มเป็นจุดเอาไว้ ส่วนขนมไหว้พิเศษที่ต้องมีซึ่งเป็นประเพณีของ  สารทจีน คือ ขนมเข่ง ขนมเทียน นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทอง 

           ของไหว้สารทจีน ชุดที่สอง สำหรับไหว้บรรพบุรุษ คล้ายของไหว้เจ้าที่ พร้อมด้วยกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ ตามธรรมเนียม สารทจีน ต้องมีน้ำแกง หรือขนมน้ำใส ๆ วางข้างชามข้าวสวย และน้ำชา จัดชุดตามจำนวนของบรรพบุรุษ และที่ขาดไม่ได้ในเทศกาล สารทจีน ก็คือ ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลไม้ และกระดาษเงินกระดาษทอง 

           ของไหว้สารทจีน ชุดที่สาม สำหรับไหว้วิญญาณพเนจร ซึ่งไม่มีลูกหลานกราบไหว้ เรียกว่า ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ จะต้องไหว้นอกบ้าน ของไหว้ สารทจีน มีทั้งของคาวหวานกับผลไม้ตามต้องการ และที่พิเศษคือ มีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง จัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้ ในวันสารทจีน


เวลาไหว้ 
                1.  เริ่มต้นจะจัดของเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อน  ในตอนเช้า  ข้าวของที่วางไว้บนโต๊ะหรือพื้นมุมใดมุมหนึ่งในบ้าน  ที่คนไม่พลุกพล่านนัก  จะต้องปูพื้นด้วยเสื่อแล้วปูทับด้วยผ้าขาวก่อนจึงวางของเซ่นไหว้ 
                เจ้าของบ้านจะจุดเทียน  ธูปเป็นกำ ๆ  ปักลงบนภาชนะข้าวของที่เซ่นไหว้ให้ครบจนทั่ว  หลังจากตั้งจิตอธิษฐาน  ตามแต่จะว่าในสิ่งที่มีมงคลแก่ตนและสมาชิกในครอบครัว  เพื่อให้เกิดลาภผลโชคดีมีสุข  แล้วก็มาเผากระดาษเงินกระดาษทองหน้าบ้าน  เป็นเสร็จพิธี
               2.  ต่อมาไหว้บรรพบุรุษ  ปกติบางครอบครัวจะจัดไหว้พร้อมกัน  การไหว้เจ้าที่  หรือไม่ก็จัดไหว้ในตอนบ่าย  มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองเหมือนกัน
                3. ชุดสำหรับไหว้วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการสะท้อนความสุภาพและให้เกียรติของคนจีน เรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดีของเรา โดยการไหว้จะไหว้นอกบ้านของไหว้จะมีทั้งของคาวหวานและผลไม้ตามต้องการและที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้


เทพแห่งโชคลาภ ไหว้เจ้าวัน สารทจีน
วันสารทจีน 2557 เทพแห่งโชคลาภวันสารทจีน 2558 เทพแห่งโชคลาภ 

  


          ในช่วงหลายสิบปี เทพแห่งโชคลาภที่บันทึกไว้ในระบบความจำของตี๋หมวยใหญ่น้อยทั้งหลายคือ ฮก-ลก-ซิ่วเทพยอดนิยมอมตะนิรันดร์กาล ที่ไม่ว่าจะเป็นจีนเชื้อสายใด เป็นคนรุ่นไหน ฮก-ลก-ซิ่ว คือเทพที่อยู่ในความศรัทธามายาวนาน ที่สามารถเข้าได้กับทุกงานมงคล ตั้งแต่งานขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดสำนักงาน วันเกิด ฯลฯ

          หรือหากเป็นเมื่อประมาณ 5-6 ปีผ่านมา ไฉ่ สิ่ง เอี๊ย หรือเทพแห่งทรัพย์ เริ่มยึดครองพื้นที่ศรัทธาในใจผู้คนมากขึ้น เพราะไม่ว่าคนรวยคนจนไหว้พระไหว้เจ้าก็ไม่พ้นเรื่องของเงินทอง

         
 ส่วน เทพแห่งโชคลาภของจีนมี 7 องค์ด้วยกัน คือ พระยูไล พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ พระจี้กง เทพแห่งเงินตราทั้ง 4 ในศาสนาพุทธ เซียนคู่ และเทพฮก          หลาย องค์ที่กล่าวถึงนั้นเป็นเทพที่คุ้นเคยใกล้ชิดไม่เฉพาะแต่คนจีน หากรวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อยทีเดียว เช่น พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่เรามักเรียกกันว่าเจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์ ที่นั่งยิ้มแฉ่งรับญาติโยม            พระโพธิสัตว์กวนอิม ว่า กันว่าถูกสร้างขึ้นมา หาได้มีตัวตนจริงไม่ แต่เมื่อสร้างแล้วมีผู้กราบไหว้บูชามากมาย จึงพยายามผูกเป็นเรื่องให้เข้ากับประวัติศาสตร์จีน โดยจัดเรื่องให้พระโพธิสัตว์เป็นพระราชธิดาของพระราชาองค์หนึ่ง…กล่าวไว้ว่า พระนางนั้นเดิมเป็นพระธิดาของ พระเจ้าเมี่ยว จวง หวาง ทรงพระนามว่า เมี่ยวซ่าน ทรงฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ไม่ยอมเข้าสู่พิธีอภิเษกสมรสตามพระประสงค์ของพระบิดา

          
ต่อ มาได้เทพทางศาสนาเต๋า คือเทพไท้ไป๋ ซิง จวิน ชี้แนะ จึงได้บำเพ็ญบารมีจนตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์…ด้วยศาสนาพุทธและศาสนาเต๋าล้วน เข้าไปสู่วิถีชีวิตของชาวจีนอย่างแยกกันไม่ออก พระโพธิสัตว์กวนอิมของศาสนาพุทธจึงกลายเป็นเทพของศาสนาเต๋าไปด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นพุทธศาสนิกชนก็ได้ เป็นผู้ที่นับถือศาสนาเต๋าก็ดี ล้วนกราบไหว้พระโพธิสัตว์องค์นี้กันทั้งนั้น…
          
พระสังกัจจายน์ หรือพระยิ้ม หรือ เรียกกันทั่วไปว่าพระถุงย่าม…ที่รู้จักกันของชาวจีนว่าคือ พระหมี เล่อ โฝว นั้นเป็นนามเรียกขานเดียวกับพระศรีอริยเมตไตรย แต่แท้จริงแล้วพระยิ้มอาจไม่ใช่พระศรีอริยเมตไตรยก็ได้ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระประหลาด…ที่มีรูปร่างอ้วนเตี้ย พุงยุ้ย มักใช้ไม้เท้าที่ทำจากไม้ไผ่เกี่ยวถุงผ้าแล้วแบกไว้บนบ่า มักปรากฏกายไปบิณฑบาตในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา พูดจาผิดจากคนทั่วไป ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น ที่ไหนๆ ก็นอนได้หมด มักจะบอกเล่าและทำนายเรื่องในอนาคตที่จะเป็นอันตรายต่อผู้คน ราวกับเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน 

          ความ จริงแล้วสิ่งที่ติดตัวของท่านก็มีเพียงถุงย่ามใบเดียว ท่านมักจะนำของบิณฑบาตมาได้เทรวมลงไปในถุงย่าม ผู้คนเข้ามามุงดู ท่านจะพูดกับคนเหล่านั้นด้วยคำพูดที่เปรียบเทียบให้คนรู้เห็นธรรมอันแท้จริง บางคนบอกว่าท่านเป็นเทพเจ้า บางคนก็ว่าท่านเป็นบ้า… 

          พระหมีเล่อ หรือพระศรีอริยเมตไตรย เป็นเสียงเรียกขานตามภาษาสันสกฤต Maitreya ความหมายก็คือผู้มีความเมตตา เป็นนามของพระโพธิสัตว์หมีเล่อของศาสนาพุทธมหายาน กล่าวกันว่าท่านเป็นบุตรตระกูลพราหมณ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งหมู่บ้านเจี่ยพอหลีชุน แห่งหนานเทียนจู๋ ของอินเดียโบราณ          พระ ศรีอริยเมตไตรยได้ตรัสรู้ก่อนพระศรีศากยมุนี จากนั้นก็ประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ในแดนสุขาวดีพุทธเกษตรทางทิศตะวันตก…พระองค์ทรงดูแลความสุขของมวลมนุษยชาติ สืบต่อจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวกันว่าในยุคของพระองค์จะมีแต่สิ่งดีๆ ความสวยงาม และความสุข…          พระจี้กง หลายท่านรับรู้เรื่องราวของท่านในฐานะ "พระคนยาก" เพราะภาพลักษณ์ของพระที่แต่งตัวปอนๆ ด้วยจีวรเก่าซอมซ่อ และ มีขวดน้ำเต้าบรรจุเหล้าติดตัวอยู่เสมอ หากเบื้องลึกของพระจี้กงที่ได้กล่าวไว้คือ พระจี้กงเป็นชาวไถโจว ปัจจุบันคืออำเภอหลินไห่ ของมณฑลเจ้อเจียง นามเดิมของท่านคือหลี่ ซิน หย่วน ท่านออกบวชที่วัดหลิงอวิ่นซื่อ ที่เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง…เนื่องจากพระจี้กงไม่นิยมปฏิบัติตามกฎของสงฆ์ ชอบกินเนื้อสัตว์และดื่มเหล้า อีกทั้งมีท่าทางเหมือนคนบ้า ผู้คนจึงเรียกท่านว่าพระบ้า 
          พระ จี้กงมีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม อีกทั้งดูถูกพวกข้าราชการที่ชอบกินสินบนและกดขี่ข่มเหงประชาชน การปฏิบัติตัวของพระจี้กงเป็นที่นิยมนับถือของประชาชนทั้งหลาย จนเรียกกันว่า ท่านคือพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิดในยุคปัจจุบัน…

          
ข้อ ความข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระเจ้าใกล้ตัว ที่หลายท่านคุ้นเพราะเคยได้ยิน ได้ฟังเรื่องราวจากผู้เฒ่าผู้แก่มาตั้งแต่เด็ก ในเชิงของตำนานพื้นบ้านที่มีอภินิหารผสมอยู่ด้วย เล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุก จึงอยากเชิญให้ท่านลองทำความรู้จักกับพระเจ้า องค์เดิมที่นับถือมานาน รวมถึงพระเจ้าองค์อื่นๆ ที่เหลือในแง่มุมที่มีหลักฐานอ้างอิงได้ ตลอดจนสถานะของเทพแห่งโชคลาภ เผื่อการไหว้พระไหว้เจ้าใน สารทจีน จะมีคุณค่า และความหมายยิ่งขึ้น 
         
 ที่สำคัญ สารท จีน สะท้อนให้คนเราเห็นว่า เมื่อมีชีวิตอยู่ควรกระทำตัวให้เป็นบรรพบุรุษที่ดี ให้ลูกหลานเคารพ และกราบไหว้บูชาแม้ยามจากไป ยังดีกว่าจะรอให้คนทั่วไปมาเซ่นไหว้ไหว้ตามข้างทาง ขึ้นอยู่ที่ว่า..คุณ!!จะเลือกเป็นบรรพบุรุษแบบไหน 

ขอบคุณเว็บสนับสนุนเนื้อหา
http://www.horoworld.com/variety/4677_รู้จัก-วันสารทจีน-เทพแห่งโชคลาภ-และ-ของไหว้เจ้าวัน-สารทจีน
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2013/08/22/entry-1
http://download.clib.psu.ac.th/datawebclib/exhonline/sartchin/page4.html
ขอบคุณภาพ
http://www.dmc.tv/
Unknown Blogger Web

We don't grow when things are easy. We grow when we face challenges. every story has an end but in life every end is a new beginning.