การไหว้ของคนจีนในเทศกาลสารทจีน
การไหว้สารทจีน จะแปลกไปกว่าสารทของชนชาติอื่น ๆ ข้าวของเครื่องไหว้จะขาดเสียมิได้ ก็คือ
1. ขนมถ้วยฟู และกู่ไฉ่ ซาลาเปา
2. ขนมเทียน
นอกจากนั้น ก็จะเป็นของเซ่นไหว้ธรรมดา แล้วมีจุดธูปเทียนจุดประทัดเพื่อส่งเจ้า แต่สมัยปัจจุบันทางการห้ามจุดประทัด จึงมีเบาบางลงมาก
อย่างไรก็ตาม ทุกบ้านเรือนของชาวจีน จะจัดชุดเซ่นไหว้เป็น 3 ชุด
1. ชุดไหว้เจ้าที่
2. ชุดไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ
3. ชุดไหว้ต้นตระกูลจีน
แต่เกือบทุก ๆ ชุด จะประกอบด้วยของ 5 อย่าง มี
1. เป็ด ต้มทั้งตัว
2. ไก่ ต้มทั้งตัว
3. เนื้อหมูติดหนัง
4. ปลา ทำแปะซะทั้งตัว
5. ตับหมู นำมาต้ม 5 อย่าง หรือ 3 อย่าง หรือ 1 อย่าง ก็ได้ตามแต่สะดวก
นอกจากนี้ก็จะเป็นข้าว กับข้าว ตามที่เจ้าหรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเคยกินและชอบในสมัยมีชีวิตอยู่ หรือลูกหลานเห็นว่าดี
ส่วนของหวานหลังอาหารคาวก็จะมี นอกจาก ขนมถ้วยฟู ขนมกู่ไฉ่ ซาลาเปา แล้ว จะได้แก่ ผลหมากรากไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล 5 อย่าง, 3 อย่าง หรือ 1 อย่างก็ได้ และกระดาษเงินกระดาษทอง
เวลาไหว้
1. เริ่มต้นจะจัดของเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อน ในตอนเช้า ข้าวของที่วางไว้บนโต๊ะหรือพื้นมุมใดมุมหนึ่งในบ้าน ที่คนไม่พลุกพล่านนัก จะต้องปูพื้นด้วยเสื่อแล้วปูทับด้วยผ้าขาวก่อนจึงวางของเซ่นไหว้
เจ้าของบ้านจะจุดเทียน ธูปเป็นกำ ๆ ปักลงบนภาชนะข้าวของที่เซ่นไหว้ให้ครบจนทั่ว หลังจากตั้งจิตอธิษฐาน ตามแต่จะว่าในสิ่งที่มีมงคลแก่ตนและสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้เกิดลาภผลโชคดีมีสุข แล้วก็มาเผากระดาษเงินกระดาษทองหน้าบ้าน เป็นเสร็จพิธี
2. ต่อมาไหว้บรรพบุรุษ ปกติบางครอบครัวจะจัดไหว้พร้อมกัน การไหว้เจ้าที่ หรือไม่ก็จัดไหว้ในตอนบ่าย มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองเหมือนกัน
3. ชุดสำหรับไหว้วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการสะท้อนความสุภาพและให้เกียรติของคนจีน เรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดีของเรา โดยการไหว้จะไหว้นอกบ้านของไหว้จะมีทั้งของคาวหวานและผลไม้ตามต้องการและที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้
เทพแห่งโชคลาภ ไหว้เจ้าวัน สารทจีน
ในช่วงหลายสิบปี เทพแห่งโชคลาภที่บันทึกไว้ในระบบความจำของตี๋หมวยใหญ่น้อยทั้งหลายคือ ฮก-ลก-ซิ่วเทพยอดนิยมอมตะนิรันดร์กาล ที่ไม่ว่าจะเป็นจีนเชื้อสายใด เป็นคนรุ่นไหน ฮก-ลก-ซิ่ว คือเทพที่อยู่ในความศรัทธามายาวนาน ที่สามารถเข้าได้กับทุกงานมงคล ตั้งแต่งานขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดสำนักงาน วันเกิด ฯลฯ
หรือหากเป็นเมื่อประมาณ 5-6 ปีผ่านมา ไฉ่ สิ่ง เอี๊ย หรือเทพแห่งทรัพย์ เริ่มยึดครองพื้นที่ศรัทธาในใจผู้คนมากขึ้น เพราะไม่ว่าคนรวยคนจนไหว้พระไหว้เจ้าก็ไม่พ้นเรื่องของเงินทอง
ส่วน เทพแห่งโชคลาภของจีนมี 7 องค์ด้วยกัน คือ พระยูไล พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ พระจี้กง เทพแห่งเงินตราทั้ง 4 ในศาสนาพุทธ เซียนคู่ และเทพฮก หลาย องค์ที่กล่าวถึงนั้นเป็นเทพที่คุ้นเคยใกล้ชิดไม่เฉพาะแต่คนจีน หากรวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อยทีเดียว เช่น พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่เรามักเรียกกันว่าเจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์ ที่นั่งยิ้มแฉ่งรับญาติโยม พระโพธิสัตว์กวนอิม ว่า กันว่าถูกสร้างขึ้นมา หาได้มีตัวตนจริงไม่ แต่เมื่อสร้างแล้วมีผู้กราบไหว้บูชามากมาย จึงพยายามผูกเป็นเรื่องให้เข้ากับประวัติศาสตร์จีน โดยจัดเรื่องให้พระโพธิสัตว์เป็นพระราชธิดาของพระราชาองค์หนึ่ง…กล่าวไว้ว่า พระนางนั้นเดิมเป็นพระธิดาของ พระเจ้าเมี่ยว จวง หวาง ทรงพระนามว่า เมี่ยวซ่าน ทรงฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ไม่ยอมเข้าสู่พิธีอภิเษกสมรสตามพระประสงค์ของพระบิดา
ต่อ มาได้เทพทางศาสนาเต๋า คือเทพไท้ไป๋ ซิง จวิน ชี้แนะ จึงได้บำเพ็ญบารมีจนตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์…ด้วยศาสนาพุทธและศาสนาเต๋าล้วน เข้าไปสู่วิถีชีวิตของชาวจีนอย่างแยกกันไม่ออก พระโพธิสัตว์กวนอิมของศาสนาพุทธจึงกลายเป็นเทพของศาสนาเต๋าไปด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นพุทธศาสนิกชนก็ได้ เป็นผู้ที่นับถือศาสนาเต๋าก็ดี ล้วนกราบไหว้พระโพธิสัตว์องค์นี้กันทั้งนั้น…
พระสังกัจจายน์ หรือพระยิ้ม หรือ เรียกกันทั่วไปว่าพระถุงย่าม…ที่รู้จักกันของชาวจีนว่าคือ พระหมี เล่อ โฝว นั้นเป็นนามเรียกขานเดียวกับพระศรีอริยเมตไตรย แต่แท้จริงแล้วพระยิ้มอาจไม่ใช่พระศรีอริยเมตไตรยก็ได้ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระประหลาด…ที่มีรูปร่างอ้วนเตี้ย พุงยุ้ย มักใช้ไม้เท้าที่ทำจากไม้ไผ่เกี่ยวถุงผ้าแล้วแบกไว้บนบ่า มักปรากฏกายไปบิณฑบาตในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา พูดจาผิดจากคนทั่วไป ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น ที่ไหนๆ ก็นอนได้หมด มักจะบอกเล่าและทำนายเรื่องในอนาคตที่จะเป็นอันตรายต่อผู้คน ราวกับเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
ความ จริงแล้วสิ่งที่ติดตัวของท่านก็มีเพียงถุงย่ามใบเดียว ท่านมักจะนำของบิณฑบาตมาได้เทรวมลงไปในถุงย่าม ผู้คนเข้ามามุงดู ท่านจะพูดกับคนเหล่านั้นด้วยคำพูดที่เปรียบเทียบให้คนรู้เห็นธรรมอันแท้จริง บางคนบอกว่าท่านเป็นเทพเจ้า บางคนก็ว่าท่านเป็นบ้า…
พระหมีเล่อ หรือพระศรีอริยเมตไตรย เป็นเสียงเรียกขานตามภาษาสันสกฤต Maitreya ความหมายก็คือผู้มีความเมตตา เป็นนามของพระโพธิสัตว์หมีเล่อของศาสนาพุทธมหายาน กล่าวกันว่าท่านเป็นบุตรตระกูลพราหมณ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งหมู่บ้านเจี่ยพอหลีชุน แห่งหนานเทียนจู๋ ของอินเดียโบราณ พระ ศรีอริยเมตไตรยได้ตรัสรู้ก่อนพระศรีศากยมุนี จากนั้นก็ประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ในแดนสุขาวดีพุทธเกษตรทางทิศตะวันตก…พระองค์ทรงดูแลความสุขของมวลมนุษยชาติ สืบต่อจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวกันว่าในยุคของพระองค์จะมีแต่สิ่งดีๆ ความสวยงาม และความสุข… พระจี้กง หลายท่านรับรู้เรื่องราวของท่านในฐานะ "พระคนยาก" เพราะภาพลักษณ์ของพระที่แต่งตัวปอนๆ ด้วยจีวรเก่าซอมซ่อ และ มีขวดน้ำเต้าบรรจุเหล้าติดตัวอยู่เสมอ หากเบื้องลึกของพระจี้กงที่ได้กล่าวไว้คือ พระจี้กงเป็นชาวไถโจว ปัจจุบันคืออำเภอหลินไห่ ของมณฑลเจ้อเจียง นามเดิมของท่านคือหลี่ ซิน หย่วน ท่านออกบวชที่วัดหลิงอวิ่นซื่อ ที่เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง…เนื่องจากพระจี้กงไม่นิยมปฏิบัติตามกฎของสงฆ์ ชอบกินเนื้อสัตว์และดื่มเหล้า อีกทั้งมีท่าทางเหมือนคนบ้า ผู้คนจึงเรียกท่านว่าพระบ้า
พระ จี้กงมีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม อีกทั้งดูถูกพวกข้าราชการที่ชอบกินสินบนและกดขี่ข่มเหงประชาชน การปฏิบัติตัวของพระจี้กงเป็นที่นิยมนับถือของประชาชนทั้งหลาย จนเรียกกันว่า ท่านคือพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิดในยุคปัจจุบัน…
ข้อ ความข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพระเจ้าใกล้ตัว ที่หลายท่านคุ้นเพราะเคยได้ยิน ได้ฟังเรื่องราวจากผู้เฒ่าผู้แก่มาตั้งแต่เด็ก ในเชิงของตำนานพื้นบ้านที่มีอภินิหารผสมอยู่ด้วย เล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุก จึงอยากเชิญให้ท่านลองทำความรู้จักกับพระเจ้า องค์เดิมที่นับถือมานาน รวมถึงพระเจ้าองค์อื่นๆ ที่เหลือในแง่มุมที่มีหลักฐานอ้างอิงได้ ตลอดจนสถานะของเทพแห่งโชคลาภ เผื่อการไหว้พระไหว้เจ้าใน สารทจีน จะมีคุณค่า และความหมายยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ สารท จีน สะท้อนให้คนเราเห็นว่า เมื่อมีชีวิตอยู่ควรกระทำตัวให้เป็นบรรพบุรุษที่ดี ให้ลูกหลานเคารพ และกราบไหว้บูชาแม้ยามจากไป ยังดีกว่าจะรอให้คนทั่วไปมาเซ่นไหว้ไหว้ตามข้างทาง ขึ้นอยู่ที่ว่า..คุณ!!จะเลือกเป็นบรรพบุรุษแบบไหน
ขอบคุณเว็บสนับสนุนเนื้อหา
http://www.horoworld.com/variety/4677_รู้จัก-วันสารทจีน-เทพแห่งโชคลาภ-และ-ของไหว้เจ้าวัน-สารทจีน
http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2013/08/22/entry-1
http://download.clib.psu.ac.th/datawebclib/exhonline/sartchin/page4.html
ขอบคุณภาพ
http://www.dmc.tv/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น